ทำไมเรามักจะฝันบ่อย ฝันบอกอะไรเราบ้าง ฝันนี้ฝันดี หรือฝันร้าย ฝันร้ายกลายเป็นดี ฝันดีให้กลายเป็นจริง บางความฝันก็ใช้ทำนายอนาคต บางความฝันก็ตีเป็นหวย แต่ในทางวิทยาศาสตร์ความฝันนั้นสามารถบอกถึงภาวะสุขภาพการนอนของเราได้นะ จากการวิจัยพบว่าเราทุกคนต่างฝันในทุกคืน โดยเราจะฝันเฉลี่ย 4-6 ครั้งต่อคืนเลยแหละ แต่เราจะจำความฝันได้ก็ต่อเมื่อเราตื่นในขณะที่เรากำลังฝันอยู่เท่านั้น ไม่แปลกใจที่หลายคนจำฝันไม่ได้หรือคิดว่าไม่ได้ฝันอาจเป็นเพราะหลับสนิทหรือตื่นตอนที่เราไม่ได้ฝันแล้วนั่นเองครับ
แล้วฝันแบบไหนคือฝันที่ดีมีคุณภาพ
1. ฝันเหมือนจริง
โดยปกติความฝันจะเกิดขึ้นในช่วงหลับฝัน ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายทำงานเหมือนตอนตื่น มีการกลอกไปมาของลูกตา แต่การฝันเหมือนจริงหรือฝันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงได้ มักเกิดขึ้นในช่วงหลับสนิท
ตื่นขึ้นมาในช่วงนี้เราจึงมักจะมีอาการเพลียๆ เหมือนหลับไม่เต็มอิ่มครับ
2. ฝันเกินจริง
มักเกิดขึ้นในช่วงหลับฝัน เป็นช่วงที่สมองตื่นแล้วซึ่งความฝันเกือบทั้งหมดจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ แต่ส่วนมากมักจะเป็นความฝันเกินจริงเหนือจินตนาการ หรือเป็นเรื่องราวที่ไม่สามารถเกิดขึ้นหรือมีอยู่จริงได้
ตื่นในช่วงนี้มักจะไม่ค่อยเพลีย
3. ฝันร้าย
มักเกิดจากความเครียดหรือความกังวล ส่วนมากแล้วคนเราจะฝันร้ายตอนช่วงใกล้ตื่นจึงจัดอยู่เป็นความฝันในช่วงหลับฝัน
ตื่นในช่วงนี้มักจะไม่ค่อยเพลีย แต่รู้สึกไม่สบายใจจากความเครียดหรือเรื่องราวในความฝัน
4. ไม่ฝัน
จริงๆ แล้วอาจฝันแต่จำไม่ได้เลยคิดว่าไม่ฝัน เพราะโดยธรรมชาติทุกคืนเราจะฝันกันอยู่แล้ว แต่หากจำฝันไม่ได้อาจเป็นเพราะหลับสนิทถือว่าเป็นการนอนที่มีคุณภาพ
5. ฝันเปียก
เป็นฝันที่ก้ำกึ่งระหว่างฝันที่เสมือนจริงกับฝันที่เหนือจินตนาการแต่ส่วนมากแล้วจะเกิดจากพัฒนาการตามวัยในเพศชาย แล้วจะค่อยๆ หายไปเมื่อมีกิจกรรมทางเพศมากขึ้น
โอ้โห…เห็นมั้ยล่ะว่าความฝันนั้นสามารถบอกถึงคุณภาพการนอนของเราได้เลยนะ แต่ก็อย่าจมอยู่กับความฝันจนละเลยความเป็นจริงไปนะ มัวแต่ฝันแต่คิดแล้วไม่ทำไม่มีวันสำเร็จหรอก โดยเฉพาะฝันลมๆ แล้งๆ ที่เกิดจากการมีความคาดหวังที่สูงเกินไป หรือใช้ชีวิตโดยไม่มีเป้าหมาย มาสร้างให้เป็นจริงโดยเริ่มลงมือทำกันเถอ