ดวงเมือง ดาวเสาร์จะเคลื่อนเข้าสู่ราศีมัง ซึ่งจากประวัติศาสตร์ชาติไทยเมื่อดาวเสาร์อยู่ในราศีมังกรจะเกิดปัญหาใหญ่ทุกครั้ง เช่น ดาวเสาร์เข้าสู่ราศีมังกร เมื่อปี 2535 เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2505 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เกิดการช่วงชิงอำนาจ เกิดกองทัพปลดแอกของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เกิดวันเสียงปืนแตกและมีการปราบปรามอย่างรุนแรง วันที่ 24 มิ.ย.2475 เกิดปฏิวัติสยาม และมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตย ปี 2445 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไทยต้องเสียดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำโขง
“ดาวเสาร์เข้าสู่ราศีมังกรในปี 2564 นี้ มีดาวพฤหัสมากุมกับดาวเสาร์ จึงเกิดการถ่วงดุลอยู่ ดาวพฤหัสหมายถึงเสรีชน ดาวพระเสาร์หมายถึงกลุ่มอนุรักษนิยม ซึ่งฝ่ายเสรีชนพยายามสร้างความเปลี่ยนแปลง ขณะที่ฝ่ายอนุรักษนิยมพยายามรักษาสิ่งเดิมไว้เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่ละฝ่ายก็พยายามเดินหน้าในแนวทางของตน ทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งทางออกที่ดีสุดคือทั้ง 2 ฝ่ายต้องพยายามผสมกลมกลืนกันให้ได้ ส่วนช่วงที่น่าห่วงว่าจะรุนแรงคือ ช่วงที่ดาวอังคารกุมมฤตยู ตรงราศีเมษทำมุมฉากกับดาวเสาร์ และดาวพฤหัส คือ ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.2563-26 ก.พ.2564 ตามด้วยช่วงที่ดาวอังคารจรอยู่ราษศีตุลย์ ระหว่างวันที่ 21 ต.ค.-4 ธ.ค.2564 และช่วงที่อังคารอยู่ตรงราศีกรกฎ คือระหว่างวันที่ 17 ก.ค.-27 ส.ค.2564 ” โหรภิญโญกล่าว
ส่วนด้านเศรษฐกิจนั้น ตั้งแต่ต้นปี ถึงปลายปี 2564 พระราหูยังโคจรอยู่ในราศีพฤษภ ซึ่งเป็นเรือนชะตาที่ 2 ของดวงเมือง เรียกว่า “ราหูค้นทรัพย์” ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การคลัง การธนาคาร ปากท้องและความเป็นอยู่ของประชาชน หมายถึงจะค้นเอาทรัพย์ที่มีอยู่มาใช้จนร่อยหรอ หรือหมดไป จนต้องกู้ยืมทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เป็นหนี้เป็นสินจำนวนมาก เช่น หนี้สาธารณะ หนี้เอกชน หนี้ครัวเรือน ทำให้ปัญหาเศรษฐกิจการเงินการคลังรุนแรงขึ้น ซึ่งราหูค้นทรัพย์จะอยู่ต่อเนื่องจนเข้าสู่ปี 2565 ดังนั้น ในปี 2564-2565 ประชาชนต้องรอบคอบในการใช้จ่ายเงินและการดำเนินชีวิตเพื่อให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้
ทั้งนี้ ในปี 2564 จะเกิดอุปราคา หรือคราส ขึ้น 4 ครั้ง โดยเกิดในราศีพฤษภ 2 ครั้ง และเกิดในราศีพิจิก 2 ครั้ง
สำหรับอุปราคาที่เกิดในราศีพฤษภนั้น ครั้งที่ 1 จะเกิดสุริยุปราคาวงแหวน ในวันที่ 10 มิ.ย.2564 เวลา 17.41 น. ศูนย์กลางคราสอยู่ในระยะ 80 องศา 46 ลิปดาเหนือ (เส้นรุ้ง) และระยะ 66 องศา 48 ลิปดาตะวันตก (เส้นแวง) สมผุส (ตำแหน่งของดวงดาว) ราศีพฤษภ ตรงระยะ 25 องศา 37 ลิปดา มองไม่เห็นในที่กรุงเทพฯ และครั้งที่ 2 เกิดจันทรุปราคาบางส่วน ในวันที่ 19 พ.ย.2564 เวลา 16.02 น. สมผุสราศีพฤษภ ที่ระยะ 5 องศา 12 ลิปดา มองไม่เห็นที่กรุงเทพฯ
เนื่องจากราศีพฤษภเป็นราศีธาตุดิน และสถิตรราศี จึงต้องระวังอุบัติภัยที่เกิดจากดิน หรือธรณีพิบัติ เช่น แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก แผ่นดินทรุด ดินถล่ม รวมถึงการเสียดินแดน โดยเหตุที่เกิดขึ้นจะมีความชัดเจนและยาวนาน