สีเสื้อมงคลประจำวัน ปี 2564 เสริมดวงชะตา

สีเสื้อมงคลประจำวัน ปี 2564 เสริมดวงชะตา ใครกำลังมองหา สีเสื้อมงคลประจำวันปี 2564/2021 เรามีพร้อมให้อัพเดทกันแล้วค่ะ! ทั้งสีมงคล เสริมการเงิน สีมงคลเสริมการงาน สีมงคลเสริมการความรัก สีมงคลเสริมดวงสุขภาพ ซึ่งสีประจำวันเหล่านี้นอกจะเป็นการเสริมดวงเสริมโชคลาภกันแบบง่ายสุดๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ทันทีแล้ว ยังช่วยเป็นไกด์ในการแต่งตัวแต่ละวันได้อีกนะคะ ส่วนใครเกิดวันไหนต้องสีอะไรมาดูกันได้เลยค่า และส่วนใครที่อยากเสริมความเฮงขึ้นอีกขั้น เรามีทิศมงคลประจำวันมาบอกกันด้วยนะคะ รับรองว่าดวงดีมีมงคลตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านแน่นอนค่ะ

ในหนึ่งสัปดาห์จะประกอบด้วยวันทั้งเจ็ด ซึ่งในแต่ละวันนัั้นก็จะมีสีประจำวันอย่างที่เราๆ เคยท่องกันเมื่อตอนสมัยเด็กๆ อย่าง วันอาทิตย์สีแดง วันจันทร์สีเหลือง วันอังคารสีชมพู อะไรประมาณนี้ เคยสงสัยกันบ้างรึเปล่าว่าสีเหล่านี้มีที่มา หรือกำหนดได้จากอะไรบ้าง ? ชื่อของวันทั้งเจ็ด โดยแต่ละอารยธรรมก็มีที่มาของชื่อร่วมกัน คล้ายกัน คือ มาจากชื่อของดวงดาวบนท้องฟ้าที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ได้แก่ ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวพฤหัส และดาวเสาร์ เมื่อรวมเข้ากับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ก็จะได้เป็นดาวทั้งเจ็ดที่คนโบราณเข้าใจว่าเป็นบริวารของโลก ส่วนเรื่องของสีประจำวันนั้น ชาวไทยได้รับคติความเชื่อส่วนใหญ่มาจากฮินดู ซึ่งเชื่อกันว่าในแต่ละวันจะมีเทวดาประจำวัน เรียกว่า เทวดานพเคราะห์ ประจำอยู่ อีกทั้งยังมีที่มาของการเกิดสีประจำวันที่แตกต่างกันตามความเชื่อ ซึ่งเล่าสืบต่อกันมา

สีเสื้อประจำวันของแต่ละวัน
วันอาทิตย์ พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้ราชสีห์ 6 ตัวป่นเป็นผง จากนั้นจึงห่อด้วยผ้าสีแดง ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระอาทิตย์ มีกายสีแดง

วันจันทร์ พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้นางฟ้า 15 นางกลายเป็นผงละเอียด จากนั้นจึงห่อด้วยผ้าสีเหลืองอ่อน ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระจันทร์ มีกายสีเหลืองนวล

วันอังคาร พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้กระบือ (ควาย) 8 ตัวกลายเป็นผง จากนั้นห่อด้วยผ้าสีแดงหลัว ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระอังคาร มีกายเป็นสีแก้วเพทายซึ่งมีสีชมพู

วันพุธ พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้พญาคชสาร (พญาช้าง) 17 เชือกกลายเป็นผง จากนั้นห่อด้วยผ้าสีเขียวใบไม้ ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระพุธ มีกายเป็นสีแก้วมรกตซึ่งมีสีเขียว

วันพฤหัสบดี พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้พระฤๅษี 19 ตนกลายเป็นผง จากนั้นห่อด้วยผ้าสีแสด ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระพฤหัสบดี มีกายเป็นสีแสด

วันศุกร์ พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้พระโค (วัว) 21 ตัวกลายเป็นผง จากนั้นห่อด้วยผ้าสีน้ำเงิน ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระศุกร์ มีกายเป็นสีคราม

วันเสาร์ พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้เสือ 10 ตัวกลายเป็นผง จากนั้นห่อด้วยผ้าสีดำหลัว ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระเสาร์ สีกายสีดำหลัว หรือสีม่วง

วันพุธกลางคืน (พระราหู) พระอิศวรผู้เป็นเจ้าสร้างพระราหูขึ้นโดยใช้ศีรษะผีโขมด 12 ตัวมาป่นลง แล้วประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระราหู สีกายสีดำนิล