ผ่าดวงเมือง 2564 ปีวัวดุ น่าหวาดเสียว มีเกณฑ์สูญเสียบุคคลสำคัญ

ผ่าดวงเมือง 2564 ปีวัวดุ น่าหวาดเสียว มีเกณฑ์สูญเสียบุคคลสำคัญ

ผ่าดวงเมือง 2564 ปีวัวดุ น่าหวาดเสียว มีเกณฑ์สูญเสียบุคคลสำคัญ รัฐสร้างหนี เล็งรีดภาษีอาน ผู้นำไม่ปฏิวัติตัวเอง ระวังโดนปฏิวัติดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ถือกำเนิดเมื่อ วันอาทิตย์ ฟองสนาน จามรจันทร์ แม่หมอสมัครเล่น เปิดเผยคำพยากรณ์ดวงเมืองปี 2564 ดำเนินไปด้วยความวุ่นวายเนื่องจากราหูค้นทรัพย์เป็นตัวตั้งหลักเริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2563 เกิดปรากฎการณ์สามนิ้วที่กำลังบีบเมือง สถาบัน รัฐธรรมนูญ และวิกฤตโควิด -19ฯลฯ อิทธิพลพระเสาร์จรจะแทรกเข้ามากระทบหลายฝ่ายทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และประชาชน

ผ่าดวงเมือง 2564 ปีวัวดุ น่าหวาดเสียว มีเกณฑ์สูญเสียบุคคลสำคัญ

เจาะไปที่เกณฑ์ชะตาเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่คาดว่าจะเกิดในเมืองปี 2564พยากรณ์ว่าตลอดทั้งปีวงการการเมืองตลอดจนบุคคลสำคัญ จะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ปฏิวัติต่อไป ด้วยอิทธิดาวการเมืองยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของมฤตยูจร เจ้าของภัยอาเพศ ผลคือการปฏิวัติสิ่งเก่าสถาปนาสิ่งใหม่ ปฏิวัติใหญ่ทางการเมืองทั้งองคาพายพ ชนิดที่ใครรู้สึกอึดอัดต้องชิงปฏิวัติตัวเอง ไม่เช่นนั้นจะถูกปฏิวัติ หรือหากฝืนได้ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด

ความพยายามปฏิวัติแบบย้อนยุค วิตถารกระทบใจประชาชนส่วนใหญ่จะกลับมาแรงอีกรอบระหว่างกลางเดือน กันยายน – สิ้นปี 2564 ดังเช่น ปี 2563 ที่ผ่านมา มีความพยายามปฏิวัติสยามย้อนยุคกลับไปปี 2475-การใช้ค้อนเคียวนำเสนอแนวทางคอมมิวนิสต์ที่เคยพ่ายแพ้ไป ปี 2563 ฯลฯ จะกลับมาแรงอีกครั้งเป็นรอบสุดท้ายสำหรับมฤตยูทับลัคนาเมืองรอบนี้

เกิดปรากฏการณ์ยำใหญ่รัฐธรรมนูญจะต่อเนื่องจากปลายปี 2563 และคาดว่าช่วงที่จะมีการทบทวนถกเถียงกันมาก หรือหมายถึงการทำประชามติระหว่างกลางเดือนมิถุนายน – ปลายเดือนตุลาคม 2564 สถานการณ์เรื่องรัฐธรรมนูญคาดว่าจะเริ่มนิ่งประมาณ 9 ธันวาคม 2564

เรื่องการเลือกตั้งตลอดปี 2564 จะเป็นระดับท้องถิ่นและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องจากปลายปี 2563 กระบวนการจะจบสิ้นประมาณ 9 ธันวาคม 2564 ส่วนจังหวะเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) คาดว่าจะเริ่มกระบวนการประมาณ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป

ซีกรัฐบาลสภาวะยังมั่นคงโดยภาพรวม แต่แบกภาระหนักอึ้งหลังแอ่น เหนื่อยยากแสนสาหัส มีการเขย่าเพื่อเปลี่ยนแปลงหรือปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ หรือไม่ก็อาจทบทวนนโยบายสำคัญ เป็นสถานการณ์ที่ผู้นำรัฐบาลอึดอัด ผะอืดผะอมกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ลีลาการเดินของดาวเหมือนกับในอดีตที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งการลาออกของทีมเศรษฐกิจรัฐบาลของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ – สี่กุมาร ที่กว่าจะได้คณะรัฐมนตรีใหม่มาแทนก็นานมาก

รัฐบาลมีภาระหนักต้องดูแลประชาชนดูแลหนี้ ทำงานหนักเพื่อผลักดันเศรษฐกิจและการทำมาหาได้ไปพร้อมๆ กับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้ชาติ ระวังด้านร้ายรัฐบาลก็สร้างปัญหาให้ประชาชนด้วยเช่นในอดีตเคยเริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นต้น

ทิ้งท้ายไม่ว่ารัฐบาลจะแบกภาระหนักขนาดไหน ใครมาเป็นรัฐบาลก็จะเอาชนะปัญหาอุปสรรคได้ มีขุมทองให้ขุดเพียงแต่จะหาพบหรือไม่เท่านั้น มีทั้งจากมิตรประเทศแหล่งพลังงานทรัพย์ในดินสินในน้ำ แถมมีโอกาสประสานมือกับประเทศเพื่อนบ้านพากันร่ำรวย การคมนาคมเริ่มทะลุเชื่อมต่อถึงกันหมดดังเช่น ในอดีตรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณเคยเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า นัยหนึ่งเป็นปีทองที่รัฐบาลจะผลักดันไทยเป็นฮับด้านสุขภาพของภูมิภาค เพื่อเกิดโชคลาภของเมืองด้วย

ผ่าดวงเมือง 2564 ปีวัวดุ น่าหวาดเสียว มีเกณฑ์สูญเสียบุคคลสำคัญ

สำหรับซีกพรรคฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลตลอดทั้งปีอยู่ในสภาวะชะตาตก หากคิดการใหญ่รอให้พ้นช่วงวันที่ 25 พฤษภาคม – 30 กันยายน 2564 และเมื่อดวงหยุดตกแล้วคิดทบทวนใหม่เสียดีกว่า

คำพยากรณ์เจาะไปที่ประเด็นเศรษฐกิจ มีเค้าลางบวกเริ่มปรากฏในดวงเมืองแทรกเข้ามา การต่อยอดด้านโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจไม่ว่าจะโครงการอีอีซี (ต่อยอดจากโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก) – สนามบินอู่ตะเภา (ต่อยอดจากสนามบินสมัยสงครามเวียดนาม) – สนามบนแห่งใหม่ – รถไฟรางคู่ – รถไฟความเร็วสูง – รถไฟฟ้า (ต่อยอดทำหลายสายหลายจังหวัด)-การฟื้นฟูคลองเช่นโอ่งอ่างฯลฯจะเกิดเค้าลางการเห็นผลอย่างมากในวาระต่อไป

แต่ต้องจับตาเรื่องฟืนไฟในเมืองจะแรงมาก พระเสาร์จรเดินอยู่ในราศีมังกรรอบที่แล้วเกิดเหตุเกี่ยวกับอุบัติเหตุฟืนไฟครั้งใหญ่ ระวังศัตรูใหญ่รบกันแล้วไทยจะเดือดร้อนพลอยฟ้าพลอยฝนเป็นหญ้าแพรกถูกเหยียบ ทำท่าจะมีเรื่องก่อตัวหลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐออกมา โดยนายโจ ไบเดนที่ชนะเลือกตั้งแล้วเปลี่ยนนโนบาย ต้องการกลับเข้ามามีบทบาทในเวทีโลกปะทะกับจีนอีกครั้ง คาดว่าไทยคงจะถูกบีบหน้าเขียวหน้าเหลืองจากสงครามเศรษฐกิจ หรือบางจังหวะอาจจะลามเป็นรบกันจริง หรือแม้จะทั่งขณะนี้เราก็เห็นการแทรกแซงจากต่างชาติผ่านองค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ หรือเอ็นจีโอที่กวนใจคนไทยอยู่