เมื่อเราเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ดวงชะตาของเมืองเผยให้เห็นช่วงเวลาแห่งความปั่นป่วนที่รออยู่ข้างหน้า ตัวบ่งชี้ทางโหราศาสตร์บ่งชี้ถึงบรรยากาศที่ท้าทายในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะการเมือง เศรษฐกิจและความรู้สึกของประชาชน มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความปั่นป่วนและความไม่แน่นอนสูง ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศ เช่น ความขัดแย้งทางการเมือง การประท้วง และปัญหาเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง
รวมถึงปัจจัยภายนอก เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและนโยบายการค้าระหว่างประเทศ สถานการณ์บ้านเมืองของไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ดูเหมือนจะเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งประเด็นทางการเมือง เศรษฐกิจ และการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศ มาดูกันว่าดวงดาวอาจส่งสัญญาณอะไรในช่วงที่เหลือของปี
ความไม่มั่นคงทางการเมืองกำลังเพิ่มขึ้น
การวางตำแหน่งของดาวเคราะห์ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับดาวอังคารและดาวเสาร์ ชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้น การที่ดาวอังคารอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นเป็นสัญญาณของการปะทะกันที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างกลุ่มที่ขัดแย้งกัน การเปลี่ยนแปลงทิศทางความเป็นผู้นำบ่อยครั้ง และความขัดแย้งทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นได้ อิทธิพลของดาวเสาร์มักสะท้อนถึงการชดใช้กรรมและความคืบหน้าที่ช้า ซึ่งบ่งชี้ว่าความตึงเครียดทางการเมืองที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากปีก่อนๆ กำลังเข้าใกล้จุดวิกฤต
ในช่วงเวลานี้ ประชาชนอาจสูญเสียความเชื่อมั่นในผู้นำ และการตัดสินใจทางการเมืองอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรง คาดว่าจะมีการชุมนุมบนท้องถนนและการเรียกร้องให้ปฏิรูปมากขึ้น เนื่องจากพลังส่วนรวมจะโน้มเอียงไปทางการแสดงออกถึงความไม่พอใจและการแสวงหาการเปลี่ยนแปลงในระบบ
แนวโน้มเศรษฐกิจ: การต่อสู้ที่รออยู่ข้างหน้า
การที่ดาวพุธโคจรถอยหลังและดาวพฤหัสอยู่ในตำแหน่งที่อ่อนแอบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจซบเซาอย่างต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นทางธุรกิจยังคงอยู่ในระดับต่ำ การลงทุนล่าช้า และความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเงินเฟ้อและหนี้สิน ธุรกิจขนาดเล็กโดยเฉพาะอาจเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาวะตลาดที่ผันผวน
ตามหลักโหราศาสตร์ นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างก้าวร้าว แต่เป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้การวางแผนงบประมาณอย่างรอบคอบ การบริหารหนี้ และความอดทนเชิงกลยุทธ์ การฟื้นตัวอาจเป็นไปอย่างช้าๆ และไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการค้าและการท่องเที่ยวระดับโลก
ความไม่สงบทางสังคมและเสียงของประชาชน
ดาวยูเรนัสซึ่งเป็นดาวที่เกี่ยวข้องกับการกบฏและการเปลี่ยนแปลงมีอิทธิพลอย่างมากต่อภาคส่วนสังคมในแผนภูมิของเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมทางสังคม การปฏิรูปประชาธิปไตย และความโปร่งใสอาจได้รับความสนใจ เสียงของเยาวชนและเครือข่ายรากหญ้าอาจโดดเด่นเป็นพิเศษ ซึ่งอาจนำไปสู่การประท้วงหรือการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่
นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หากปล่อยปละละเลย ความรู้สึกของสาธารณชนอาจเปลี่ยนจากความไม่พอใจเป็นความท้าทาย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดซึ่งท้าทายสถานะเดิม
ม็อบส่งสัญญาณ / การชุมนุม
การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนและกลุ่มผู้ชุมนุมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568:
การกลับมาของการชุมนุม: หลังจากช่วงที่ค่อนข้างสงบ การชุมนุมประท้วงได้เริ่มกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของประชาชนต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
ข้อเรียกร้อง: กลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก และมีการตั้งข้อสังเกตว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณของการระดมพลครั้งใหญ่ของกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่กลับมามีบทบาทอีกครั้ง
ปัจจัยกระตุ้น: ความไม่พอใจในประเด็นต่างๆ เช่น ความไม่ชัดเจนทางการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตร ยังคงเป็นชนวนสำคัญที่อาจนำไปสู่การชุมนุมที่รุนแรงขึ้น
ช่วงเวลาแห่งการทดลองและการเปลี่ยนผ่าน
ครึ่งปีหลังของปี 2025 เป็นช่วงแห่งการทดสอบและการเปลี่ยนแปลง ความไม่สงบทางการเมืองและความยากลำบากทางเศรษฐกิจสร้างความไม่แน่นอน แต่ยังเป็นโอกาสในการคิดใหม่เกี่ยวกับความเป็นผู้นำ ฟื้นฟูความไว้วางใจ และสร้างใหม่ด้วยความยืดหยุ่น รูปแบบทางโหราศาสตร์เน้นย้ำถึงความสำคัญของความรับผิดชอบร่วมกัน การสื่อสาร และความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาเก่าด้วยแนวคิดใหม่
ดวงเมืองในครึ่งปีหลัง 2568 มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับ ความปั่นป่วนและความไม่แน่นอนสูง ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศ เช่น ความขัดแย้งทางการเมือง การประท้วง และปัญหาเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง รวมถึงปัจจัยภายนอก เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและนโยบายการค้าระหว่างประเทศ
นักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย และจำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะเรื่องของความขัดแย้งทางการเมืองและรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างเสถียรภาพและความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน
ผู้มีอำนาจควรมีความฉลาดในการรับรู้อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้คน การรับฟัง ปรับตัว และโปร่งใสจะเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า ดังที่ดวงดาวบอกไว้ ไม่ใช่ความสงบ แต่เป็นพายุที่เผยให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่แท้จริง